วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2552

น้ำยาบ้วนปากก่อมะเร็ง ????



ก่อนจะบ้วนปากครั้งต่อไป คุณคงต้องคิดอีกครั้ง เมื่อนักวิจัยพบว่าน้ำยาบ้วนปากหลายยี่ห้อที่วางขายตาท้องตลาดนั้น สามารถก่อให้เกิดมะเร็งในช่องปากได้ ...


Professor Michael McCullough จาก University of Melbourne เผยจากผลงานการวิจัยพบว่า น้ำยาบ้วนปากในปัจจุบันที่วางขายกันตามท้องตลาดนั้น มีส่วนผสมของเอทานอล (หรือแอลกอฮอล์) อยู่มากถึง 26 % และมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งในช่องปาก (oropharyngeal cancer หรือ OPC)


ผลงานการวิจัยเผยแพร่ในวารสาร Dental Journal of Australia เผยข้อข้องใจที่ถกเถียงกันมานานว่า น้ำยาบ้วนปากนั้นสามารถเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งได้หรือไม่ เนื่องจากสารอะซิตอลดีไฮด์ (Acetaldehyde) ซึ่งเป็นของเหลือ (By-product) ของแอลกอฮอล์นั้นสามารถซึมผ่านเยื่อบุภายในปากได้อย่างง่ายดายและทำลายเซลล์ เมื่อเราอมและกลั้วปาก มันจะซึมเข้าไปเก็บไว้ในหลุมเล็กๆใต้ผิวหนังเยื่อบุภายในปาก


นักวิจัยเชื่อว่ากระบวนการนั้นก่อให้เกิดมะเร็ง จากการศึกษาที่ผ่านมา Professor Michael McCullough พบผู้ป่วยหลายรายที่ป่วยเป็นมะเร็งในช่องปากโดยไม่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ (เช่น ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ฯลฯ) แต่ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เมื่อเขาและทีมงานศึกษาลึกลงไปจึงทราบ ทั้งนี้ คนออสเตรเลียเป็นมะเร็งในช่องปากกันกว่าปีละ 800 คน Professor Michael McCullough ผู้ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการทันตกรรม จากสมาคมทันตกรรมแห่งออสเตรเลีย (Australian Dental Association หรือ ADA) กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์นั้นควรจะขึ้นทะเบียนยาที่ต้องใช้ใบ สั่งจากแพทย์ และควรมีคำเตือนให้ผู้บริโภคระวังอันตรายให้เห็นชัดเจนด้วย น้ำยาบ้วนปากในประเทศออสเตรเลียมี มูลค่ากว่า 65 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (หรือประมาณ 1650 ล้านบาท) Professor Michael McCullough เสนอว่า ทางสมาคมควรจะถอนคำรับรองการตรวจสอบมาตรฐานที่แสดงบนผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปาก ลิสเตอรีนออกไปด้วย


อ้างอิง Clair Weaver. “Top-selling mouthwash brands, including Listerine, linked to cancer”. The Sunday Telegraph. 11 January 2009. 11 January 2009. http://www.news.com.au/story/0,27574,24895211-421,00.html



****** อย่าตกใจว่าทำไมวันนี้เรามาแนววิชาการจัง


********* จิงๆแล้วอ่านเว็บ soccersuck อยู่แล้วเจอ คิดว่าน่าสนใจดีเลยเอามาโพสไว้ ^ ^ "


************* เรียนbioethic กันมาแล้ว ก้ออย่าเพิ่งเชื่อนะ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมกันเอง


***************** ก็ไม่มีไรละ ขอจบเพียงเท่านี้ *%%

8 ความคิดเห็น:

  1. อัพบล๊อกได้โคดเป็นทันตะเลยฟ่ะ

    สุดยอดดด !

    ตอบลบ
  2. สมกับเป็นหมอฟันดีนะ

    =______=;;

    เราไม่ใช่อยู่แล้วอ่ะ

    เราเหม็นกลิ่นมิ้นต์ !!

    5555555555++++

    ตอบลบ
  3. งงเรยๆ

    อย่างวิชาการ

    ฮ่าๆ

    ตอบลบ
  4. เราไม่ค่อยชอบใช้อ่ะ
    เคยลองเอาของพ่อมาใช้รอบนึง
    บ้วนแล้ว ปากนี่แสบเลย = =
    ไม่กล้าใช้แล้ว 5555+

    ตอบลบ
  5. ไม่นึกว่าจะเปนบลอกของเมิง

    ตอบลบ
  6. ซาหวัดดี

    แวะมาทักทาย

    บล๊อกมีสาระดีแท้ ทันตะเจง

    ผมเปลี่ยนสีแล้ว แต่ไม่ใช่แดง

    ได้แค่กัดสีเป็นสีออกทองๆ

    หมดงบประมาณ

    จบ

    ตอบลบ
  7. ปกติไม่ใช้อยู่แล้วอ่าาา

    รอดตัวไป


    ปล.ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าจะได้ความเป็นวิชาการจากบล็อคนี้ เหอๆ

    ล้อเล่นน้าา อิอิ ^^

    ตอบลบ
  8. น้ำยาบ้วนปากเป็นทางออกที่น้ำยาฆ่าเชื้อที่ใช้เป็นระบบการดูแลที่บ้านโดยผู้ป่วยที่มีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างสุขอนามัยในช่องปาก ใช้ น้ำยาบ้วนปาก ที่มีฟลูออไรซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับฟันของคุณ อย่าล้างออกด้วยน้ำทันทีหลังการใช้น้ำยาบ้วนปาก

    ตอบลบ